แบตเตอรี่ จะทำหน้าที่เก็บพลังงานไฟฟ้ากระแสตรงทีได้จากแผงโซล่าเซลล์ โดยผ่านการควบคุมการประจุไฟฟ้าจากชาร์จ คอนโทรลเลอร์ ที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ ในระบบโซล่าเซลล์ ใช้แบตเตอรี่ประเภท Deep Cycle เพราะเก็บประจุไว้ได้มากและจ่ายไฟได้ต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถจ่ายกระแสสูงๆได้ในเวลาอันสั้นเหมือนกับแบตเตอรี่รถยนต์ เนื่องจากมีแผ่นธาตุใหญ่และหนา ทำให้แผ่นธาตุหลุดร่วงได้ยากและเหมาะสมกับเมืองร้อนแบบเมืองไทย
แบตเตอรี่ประเภท Deep Cycle ถ้าบำรุงรักษาและใช้งานอย่างถูกต้องจะมีอายุการใช้งานมากกว่า 3-4 เท่าของแบตเตอรี่แบบทั่วไป สำหรับหลักการทำงานของแบตเตอรี่จะไม่ขอกล่าวถึงเนื่องจากมีรายละเอียดค่อนข้างมาก ดังนั้นจะขอกล่าวถึงค่าที่เกี่ยวข้องสำหรับการนำไปใช้ออกแบบโซล่าเซลล์ แบบอ๊อฟกริด ซึ่งมีค่าที่ต้องกล่าวถึงดังนี้
1. ความจุของแบตเตอรี่ มีหน่วยเป็น แอมป์-ชั่วโมง (แอมป์อาวร์ : AH) ในท้องตลาดก็มีตั้งแต่ขนาดเล็กๆ ขนาดไม่ถึง 10 AH จนขนาดความจุสูงประมาณ 250 AH ยกตัวอย่างการนำไปใช้งาน เช่น เราใช้แบตเตอรี่ ขนาดความจุ 10AH แล้วเรามีอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ต่อใช้งานกินกระแส 1แอมป์ (A) ดังนั้นเราก็ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้านี้ได้นาน 10 ชั่วโมง หรือถ้าอุปกรณ์ไฟฟ้าเรากินกระแส 10 A เราก็ใช้ได้แค่ 1 ชั่วโมง เป็นต้น
2.แรงดันไฟฟ้า มีหน่วยเป็น โวลท์ (V) ค่าแรงดันไฟฟ้าของแบตเตอรี่ส่วนใหญ่ที่นำมาใช้งานในระบบโซล่าเซลล์ แบบอ๊อฟกริด ประมาณ 2 V ต่อเซลล์ ซึ่งส่วนใหญ่แบตเตอรี่1ตัว จะมีอยู่ 6 เซลล์ที่ต่ออนุกรมกันในกล่องเดียวกัน ดังนั้นแรงดันรวมในแบตเตอรี่1ตัวคือ 12 V DC
3.ค่าระดับความลึกการคายประจุ มีหน่วยเป็นเปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่ก็จะใช้ค่า 50 - 80 % ในการคำนวณ หากเราเลือกใช้ค่า 50% ก็หมายความว่า ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่เก็บไฟได้ ครึ่งหนึ่งความสามารถโดยรวมแต่อายุการใช้งานอาจยาวนาน กว่าการที่เราเลือกคำนวณเป็น 80% ที่ได้ประสิทธิภาพสูงขึ้นแต่ อายุการใช้งานอาจสั้นลงครับ ซึ่งส่วนใหญ่ที่ทีมงานคำนวณก็จะใช้ค่า 70% หรือ 80% ครับ
สรุปอายุการใช้งานแบตเตอรี่ก็จะแปรผกผัน กับ%ประสิทธิภาพที่เราเลือกมาคำนวณครับดังรูป